แอนแทรกซ์
แอนแทรกซ์: โรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่รุนแรงกว่าที่คิด
หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อ แอนแทรกซ์ เท่าไรนัก เพราะไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นบ่อย แต่เมื่อเกิดขึ้นที ก็เป็นเรื่องใหญ่ครับ ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ที่อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 รายจากโรคนี้
เบื้องต้นคาดว่า ผู้เสียชีวิตติดเชื้อจากการชำแหละโคและนำเนื้อไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านครับ ซึ่งตอนนี้พบผู้ป่วยเพิ่มอีก 2 ราย และยังมีกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวังอีกกว่า 600 คนเลยทีเดียว
แอนแทรกซ์คืออะไร?
โรคแอนแทรกซ์ หรือที่ในบางพื้นที่เรียกกันว่า โรคกาลี เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อ Bacillus anthracis เชื้อนี้สามารถพบได้ตามธรรมชาติใน ดิน น้ำ หรือพืช และมีความสามารถพิเศษคือ ทน ต่อสภาพแวดล้อมแบบสุด ๆ ทั้งร้อนจัดหรือเย็นจัดก็เอาอยู่ และยังสามารถคงสภาพอยู่ในรูปของ สปอร์ ได้นานมาก
ติดต่อกันได้ยังไง?
เชื้อแอนแทรกซ์สามารถติดจากสัตว์สู่คนได้ โดยเฉพาะสัตว์กินหญ้าพวก โค กระบือ แพะ แกะ ซึ่งสามารถแพร่เชื้อสู่คนได้ผ่าน 3 ทางหลัก ๆ :
ทางผิวหนัง จากการสัมผัสสัตว์หรือซากสัตว์ที่ติดเชื้อ
ทางการหายใจ จากการสูดสปอร์ของเชื้อเข้าไป
ทางการกิน โดยเฉพาะการกินเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกหรือปรุงไม่สะอาด
ที่น่ากลัวคือ สปอร์ของเชื้อ นี้สามารถทนความร้อนได้ถึง 140°C ได้นานถึง 3 ชั่วโมงเลยนะครับ เพราะฉะนั้นการปรุงอาหารแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ อาจไม่เพียงพอในการทำลายเชื้อพวกนี้ได้
อาการของโรค ขึ้นอยู่กับวิธีที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย
- ติดจากการหายใจเข้าไป (สูดสปอร์)
จะมีอาการไข้ หนาวสั่น แน่นหน้าอก ไอ หายใจลำบาก ปวดหัว คลื่นไส้ เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย และมึนงง
- ติดจากการสัมผัสผิวหนัง
มักเริ่มจากตุ่มแดงคัน แล้วกลายเป็นตุ่มหนอง แผลบวม มีรอยดำตรงกลาง มักเกิดที่หน้า คอ หรือแขน
- ติดจากการกิน
จะมีไข้ หนาวสั่น เจ็บคอ คอบวม ต่อมน้ำเหลืองโต คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาเจียนเป็นเลือด หรือมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง ปวดท้อง ท้องบวม และอาจหมดสติได้
การรักษาทำอย่างไร?
- แอนแทรกซ์สามารถรักษาได้ ถ้าได้รับการวินิจฉัยและรักษาทันเวลา
โดยแพทย์จะใช้ ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนนิซิลลิน, ด็อกซีไซคลิน, หรือกลุ่ม ควิโนโลน
- บางกรณีที่อาการรุนแรง แพทย์อาจเสริมด้วย ยาต้านพิษ อย่าง คลินดาไมซิน หรือ ลิเนโซลิด
-การรักษาจะต้องมีการติดตามใกล้ชิด เพราะบางเคสอาการอาจเปลี่ยนแปลงเร็ว
แล้วเราจะป้องกันได้อย่างไร?
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่วย หรือสัตว์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มา
- อย่าดื่มนมหรือกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุกหรือฆ่าเชื้ออย่างถูกวิธี
- หากต้องจัดการกับซากสัตว์ ให้ใช้ถุงมือและอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง
- หากมีอาการผิดปกติหลังสัมผัสสัตว์ หรือกินเนื้อสัตว์แปลก ๆ ควรรีบพบแพทย์ทันที
ถึงแม้ว่า แอนแทรกซ์ อาจดูเหมือนโรคที่อยู่ไกลตัว แต่ในความเป็นจริง หากเราประมาท มันสามารถเกิดขึ้นได้ใกล้กว่าที่คิดครับ เพราะฉะนั้น การรู้เท่าทัน และดูแลตัวเองให้ถูกวิธี คือวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้โรคนี้เกิดขึ้นกับเราและคนรอบข้างครับ